บทความนี้จะชวนเพื่อนๆ ชาวมนุษย์เงินเดือนมาหารายได้เสริมที่สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้หลักกับพื้นที่ข้างบ้านด้วยการ ปลูกผักสลัดสร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน อาชีพเสริมมนุษย์เงินเดือน 2022 ผักสลัดเป็นผักที่ตลาดยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่องและสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี และยังสามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัดไม่ว่าเพื่อนๆ จะอาศัยอยู่คอนโด อพาร์ทเม้นต์ ทาวเฮ้าส์ ตึกแถว หรือบ้านเดี่ยวก็สามารถปลูกได้
ประโยชน์ของผักสลัด
ผักสลัดเป็นผักที่มีวิตามินที่ร่างกายต้องการ และมีไขมันต่ำนอกจากนี้ยังมีเส้นใยอาหาร เป็นจำนวนมากช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้อีกด้วย ให้ผักสลัดนั้นมีทั้งเกลือแร่และวิตามิน A B C และ E รวมไปถึงเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ประโยชน์ของผักสลัดแต่ละชนิดมีดังนี้
- กรีนโอ๊ค มีลักษณะของใบสีเขียวหยักและอ่อนนุ่ม ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร บำรุงสายตาเส้นผมและระบบประสาท กล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยังช่วยป้องกันโรคหวัดโรคปากนกกระจอกได้อีกด้วย
- เรดโอ๊ค ผักสลัดใบหยักมีสีเขียวและสีแดง มีคุณสมบัติคล้ายกับกรีนโอ๊ค เป็นผักสลัดที่มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูงนอกจากนี้ยังช่วยกำจัดไขมันและนางผนังลำไส้ได้อีกด้วย
- คอส มีลักษณะใบสีเขียวใบยาวและใหญ่มีรสชาติหวานกรอบ มีคุณสมบัติช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และป้องกันโรคโลหิตจาง
- บัตเตอร์เฮด สลัดใบสีเขียวกลมกว้าง รสชาติหวานเล็กน้อย มีเส้นใยอาหารสูงช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารได้ดี นอกจากนี้ยังบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และสายตา ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอกเช่นเดียวกับผักสลัดชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดให้ hemoglobin ที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคโลหิตจาง
- ฟินเล่ไอซ์เบิร์ก ลักษณะของใบเป็นฝอยมีสีเขียว ให้รสชาติหวานกรอบและฉ่ำน้ำ มีวิตามินซีสูง ช่วยในเรื่องของการป้องกันและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
- เรดโครอล ผักสลัดใบหยักมีสีน้ำตาลแดง รสชาติหวานกรอบใบค่อนข้างนุ่ม มีเส้นใยอาหารที่สูง มีวิตามินซี ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดและป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอก และโรคโลหิตจาง
- ร็อคเก็ต ลักษณะของใบซ้อนกันเป็นชั้น ใบหยักลึกเป็นรูปพิณ กลิ่นหอมและให้รสเผ็ดเล็กน้อย มีวิตามินเอ ซี และโปแตสเซียมสูง แคลอรี่ต่ำ
รู้จักผักไฮโดรโปนิกส์
ผักไฮโดรโปนิกส์ คือผักที่ปลูกในน้ำที่มีการผสมสารละลายของธาตุอาหารที่สำคัญในการปลูก หรือ ปุ๋ยน้ำ ซึ่งการปลูกผักแบบนี้ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกผักกินใบ และระยะเวลาในการปลูกสั้น ซึ่งผักที่นิยมปลูกคือ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนคอส ฟิลเลย์ และบัตเตอร์เฮด ผักกาดหอม ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 40-60 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว นอกจากนี้พื้ชชนิดอื่นเช่น มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เมล่อน สตรอเบอร์รี่ก็สามารถปลูกได้เช่นกัน
วิธีการปลูก
การปลูกผักสลัด สามารถปลูกลงดิน หรือปลูกในน้ำได้ทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับความถนัด หรือความต้องการของผู้ปลูก ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ให้ผลที่ไม่แตกต่างกันมากนักโดยจะขอกล่าวถึงวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ โดยการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ จะมีวิธีการปลูกอยู่ 5 ระบบด้วยกัน คือ DFT ,DRFT , .FAD , NFT และ NFLT ซึ่งระบบที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไปคือ DFT หรือ Deep Flow Technique และระบบ NFT หรือNutrient Film Techniqueจะมีวิธีปลูกดังนี้
- ปลูกด้วยระบบ DFT หรือ Deep Flow Technique ระบบปลูกโดยให้รากแช่อยู่ในสารละลาย ปลูกบนแผ่นโฟมหรือวัสดุที่ลอยน้ำได้นิยมใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ทั่วไป และยังสามารถประยุกต์วัสดุได้หลากหลายเช่น กล่องโฟม ขวดน้ำพลาสติก ท่อน้ำ หรือใช้ถังน้ำก็ได้เช่นกัน
- ปลูกด้วยระบบ NFT หรือ Nutrient Film Technique ระบบนี้จะใช้น้ำที่ผสมสารละลายไหลผ่านรากบนรางปลูกอย่างต่อเนื่องโดยรางปลูกจะมีความลาดเอียงเพื่อให้น้ำที่ไหลผ่านบางคล้ายกับแผ่นฟิล์ม
วิธีปลูกระบบ DFT โดยใช้กล่องโฟม
วิธีนี้สามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดก็สามารถปลูกได้ มีขั้นตอนดังนี้
- เริ่มด้วยการเพาะเมล็ดในฟองน้ำ หรือจะนำเมล็ดไปแช่น้ำและทิ้งไว้ 7 วันจนกระทั่งเมล็ดกลายเป็นต้นกล้าก็ได้เช่นกัน
- เตรียมกล่องโฟมสำหรับปลูกโดยใช้กล่องโฟมขนาด 60×60 เซนติเมตร
- เจาะรูกล่องโฟมเป็นวงกลมขนาด 1 นิ้ว โดยใช้มีดหรือหัวสว่านเจาะก็ได้ โดยให้มีระยะห่างประมาณ 30 เซนติเมตร
- จากนั้นทำการเติมน้ำและผสมปุ๋ยลงไปในกล่องโฟมที่เตรียมไว้
- นำถ้วยสำหรับปลูกมาใส่ในรูที่เจาะไว้
- นำต้นกล้าที่เพาะไว้แล้วมาใส่ลงในถ้วยปลูก
- ในระหว่างนี้ให้หมั่นสังเกตและทำการรักษาระดับน้ำให้สูงถึงถ้วยปลูกตลอดเวลา
- ระยะเวลาในการปลูกใช้เวลาประมาณ 1 เดือนสามารถเก็บมารับประทานหรือขายได้ทันที
วิธีการปลูกระบบ NFT
สำหรับวิธีการปลูกด้วยระบบนี้เมื่อเตรียมโรงเรือน สำหรับปลูกให้พร้อมซึ่งตัวของโรงเรือน ควรอยู่ในที่โล่งแจ้งและอากาศถ่ายเท ระบบไฟฟ้าเพื่อช่วยในการควบคุมระบบการจ่ายน้ำ และควรมีมุ้งป้องกันแมลงและน้ำฝน และเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับปลูกดังนี้
- ภาชนะสำหรับปลูก โดยส่วนใหญ่นิยมใช้ท่อ PVC เพราะราคาค่อนข้างถูกแล้วจึงนำมาเจาะรู
- วัสดุสำหรับใช้ปลูกทดแทนดินโดยส่วนใหญ่นิยมใช้ ฟองน้ำ หินภูเขา ไฟดินเผา ทราย เพื่อให้รากมีที่ยึดเกาะ
- เมล็ดพันธุ์ของผักสลัดที่ต้องการปลูก
- น้ำสะอาด และสารละลายที่มีธาตุอาหารสำคัญต่อพืช และถังสำหรับใส่สารละลายธาตุอาหาร
- เครื่องตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่าง และค่าการนำไฟฟ้าของสารละลายธาตุอาหาร
- ระบบไฟฟ้าและปั๊มน้ำ เพื่อควบคุมการส่งน้ำให้ไหลเวียนในรางปลูกอย่างทั่วถึง
เมื่อเตรียมอุปกรณ์รางปลูกพร้อมแล้ว ทีนี้มาถึงขั้นตอนการปลูกโดยวิธีการดังนี้
- เพาะเมล็ดพันธุ์ของต้นกล้าในฟองน้ำ หรือหินภูเขาไฟ หรือถ้วยเพาะสำเร็จรูป หากเลือกใช้เพื่อความสำเร็จรูปให้หยอดเมล็ดพันธุ์ลงไปในถ้วยหลังจากนั้นใส่น้ำสูง 2 เซนติเมตร แล้วนำไปวางในที่ที่มีอากาศถ่ายเทมีแสงแดดเพียงเล็กน้อย จนกระทั่งต้นกล้างอกขึ้นมาจึงเริ่มให้สารละลายธาตุอาหาร ผ่านทางรากในถาดเพาะ ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์จนกระทั่งต้นกล้าแข็งแรงจึงย้ายไปยังแปลงปลูกที่เตรียมไว้
- เตรียมสารละลายธาตุอาหารระหว่างรปภต้นกล้า โดยผสมอัตราส่วนเจือจาง x ความจุของถังบรรจุสารเพื่อให้ได้สารละลายที่มีธาตุอาหารที่เหมาะสม
- ควรเปลี่ยนสารละลายธาตุอาหารทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ และควบคุมปริมาณของน้ำให้เหมาะสม มีคุณภาพตลอดเวลา
ต้นทุนและรายได้จากการปลูกผัดสลัด
สำหรับคนที่เริ่มปลูกในช่วงแรกอาจจะเริ่มเพียงแค่เล็กน้อยเสียก่อนให้เกิดความชำนาญแต่เมื่อเข้าใจธรรมชาติและวิธีการปลูกที่ถูกต้องแล้วจึงเลือกวิธีการลงทุนเรื่องวิธีการปลูกว่าต้องการแบบไหน ซึ่งไม่ว่าจะเรื่องตัดใดก็ตามในการปลุกแต่ละครั้งสามารถทำกำไรให้กับผู้ที่สนใจลงทุนได้มากกว่า 50%
เทคนิคในการปลูกผักสลัดให้ทันต่อความต้องการของตลาด
สำหรับการปลูกเพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ในทุกๆ สัปดาห์นั้นคนมีการวางแผนระยะเวลาในการปลูกให้ดี ทั้งนี้ฤดูกาลมีส่วนสำคัญเพราะหากเป็นช่วงฤดูหนาว ผักสลัดจะให้ผลผลิตที่มีน้ำหนักดีและสวย หากเป็นเป็นในช่วงฤดูร้อนส่งผลให้โตช้าและรากเน่าทำให้ผักไม่ได้น้ำหนักตามที่ควร และหากเป็นช่วงต้นฤดูฝนอาจมีปัญหาในเรื่องของแมลง ทำให้ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเป็นคนวางแผนการเพาะปลูกให้ดีเพื่อที่จะได้มีผักเพียงพอต่อความต้องการของตลาด
จะเห็นได้ว่าการปลูกผักสลัดนั้นสามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัดและยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม หรือเล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารคลีน หรือทำสลัดขาย เหล่านี้ล้วนต้องการผักสลัดไปประกอบในเมนูทั้งสิ้น สำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่สนใจอยากจะสร้างรายได้เสริมด้วยการปลูกผักสลัดขายควรเริ่มต้นศึกษาให้เข้าใจวิธีการปลูกให้ชำนาญแล้วจึงเริ่มขยายแปลงผักให้เพียงพอและเหมาะสมกับพื้นที่เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็จะสามารถ ปลูกผักสลัดสร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน อาชีพเสริมมนุษย์เงินเดือน 2022 ได้อย่างแน่นอน hobinvest