เพื่อนๆ กำลังมองหารายได้เสริมที่ทำง่าย ขายดี ทำกำไรได้ง่ายๆ อยู่ใช่ไหมคะ บทความนี้เราได้ เมนูขนมหวานสร้างรายได้เสริม ปี 2565 มาฝากเพื่อนๆ เป็นไอเดียจะทำขายเป็นอาชีพหลัก หรือทำเป็นอาชีพเสริมก็สามารถทำได้ ไม่ยุ่งยากแถมยังกำไรงาม กลุ่มลูกค้าก็มีหลากหลายไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ชอบ และยังเป็นเมนูที่ขายดิบขายดีกินเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มีเบื่อ
สำหรับมือใหม่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะทำขายได้หรือไม่เพราะสามารถเรียนรู้ฝึกฝนได้ไม่ยากจากช่องทางออนไลน์อย่างยูทูป หรือกลุ่มเพจทำอาหาร และเบเกอรี่ที่มีสมาชิกมาแบ่งปันสูตรและเทคนิคกัน หรือจะลงสมัครเรียนตามสถาบันที่เปิดสอนทั่วไป หรือศูนย์ฝึกอาชีพใกล้บ้านก็ได้เช่นกันค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ถนัดทำแต่ถนัดขายก็สามารถรับมาขาย หรือจะเลือกซื้อแฟรนไชส์ก็สามารถทำกำไรให้กับเพื่อนๆ ได้แน่นอน จะมีเมนูอะไรที่น่าขายบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ
ขนมปังไส้ทะลัก
ขนมปังไส้ทะลักเป็นเมนูที่ทานได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าในเวลาเร่งรีบก่อนไปทำงาน ช่วงพักเบรค ระหว่างวัน หรือจะเป็นช่วงค่ำๆ ดึกๆ ก็สามารถทานรองท้องในเวลาหิวได้เช่นกัน สำหรับเมนูนี้เป็นเมนูที่ไม่ยุ่งยากแถมยังใช้เงินลงทุนไม่มากใช้งบหลักพันก็สามารถขายได้แล้ว ทำเลสำหรับเปิดขายเน้นแหล่งที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ตลาดนัด หอพัก คอนโด แหล่งออฟฟิศสำนักงาน แม้แต่ช่องทางออนไลน์ก็สามารถขายได้ไม่ว่าจะเป็นไลน์กลุ่มหมู่บ้าน คอนโด หรือเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ต่างๆ ก็สามารถขายได้
อุปกรณ์สำหรับขายขนมปังไส้ทะลัก
- เตาไฟฟ้าสำหรับปิ้งขนมปัง
- หม้อสำหรับใส่ไส้รสชาติต่างๆ
- โต๊ะสำหรับวางอุปกรณ์
- ถาด ตะแกรงพัก
- ไม้พายสำหรับทาเนย ที่คีบขนมปัง
- อุปกรณ์อื่นๆ เช่น กล่องสำหรับใส่ขนมปัง แพคเกจจิ้ง ถุง
วัตถุดิบ
- ขนมปังแพ
- ไส้รสชาติต่างๆ
- มาการีนกลิ่นเนยสด
- ท้อปปิ้งตามชอบ (ถ้ามี)
ครัวซองต์
เมนูยอดฮิตที่กำลังถูกพูดถึงและขายดิบขายดีอย่างครัวซองต์ที่ทานได้ทุกเวลาเช่นกัน ไม่ว่าจะทานเป็นมื้อเช้า หรือทานเป็นของว่างก็อร่อย แถมยังทำเป็นเมนูอาหารคาวก็ได้ เมนูอาหารหวานก็อร่อย สำหรับเมนูนี้จะว่ายากก็ยาก จะง่ายก็ง่ายขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการในการทำเบเกอรี่ แต่สำหรับคนที่ไม่อยากเหนื่อยกับการรีดแป้งแต่มีใจรักในการขาย แถมยังชอบกินครัวซองต์ และอยากจะขายก็ไม่ยากเช่นกัน เพราะปัจจุบันมีแฟรนไชส์ให้เลือกซื้อมาเปิดขายโดยไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีโรงงานผลิตเบเกอรี่หลายโรงงานที่ผลิตครัวซองต์แช่แข็งพร้อมอบให้เพื่อนๆ ที่ต้องการเปิดขายนำมาอบ และตกแต่งตามชอบขายกันได้ง่ายๆ เพียงแต่ต้องลงทุนซื้อเตาอบและอุปกรณ์เพิ่มเติม นอกจากทั้งสองวิธีนี้แล้วเพื่อนๆ สามารถ เปิดรับหิ้วครัวซองต์เจ้าดังที่กำลังเป็นกระแส หรือจะรับจากร้านเบเกอรี่ขายส่งมาวางขายก็ได้เช่นกัน
อุปกรณ์สำหรับขายครัวซองค์
- เตาอบขนาด 40 ลิตรขึ้นไป
- ตะแกรงพักและถาด
- อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ที่คีบ พู่กันสำหรับทาครัวซองต์ กล่องและถุง ฯลฯ
วัตถุดิบ
- ครัวซองต์แช่แข็ง (สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ขนาดใหญ่)
- ไข่ไก่และนมสดสำหรับทาหน้าครัวซองต์
- แฮม ปูอัด ชีส ไส้กรอก หรืออื่นๆ ตามชอบสำหรับทำครัวซองต์แซนวิช
- ถั่ว อัลมอนต์ และอื่นๆ สำหรับทำไส้และตกแต่งครัวซองต์
โดนัท
เมนูขนมทานเล่นที่เป็นของโปรดของใครหลายๆ คนที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะทานกับนมหรือคู่กับกาแฟก็อร่อยไม่แพ้กัน แถมยังเป็นเมนูที่ทำง่าย ขายดี กำไรงาม สำหรับคนที่มีความรู้พื้นฐานทางด้านเบเกอรี่หรือชอบทำขนมอยู่เป็นทุนยิ่งไม่ต้องกังวลสามารถหาสูตรได้จากช่องทางออนไลน์อย่างยูทูป หรือเว็บไซต์ต่างประเทศ มองหาไอเดียใหม่ๆ มาทำให้โดนัทดูมีจุดขายและน่าสนใจ ส่วนคนที่ทำไม่เป็นก็สามารถศึกษาได้ด้วยตัวเองไม่ยากหรือจะลงเรียนตามสถาบัน หรือคอร์สออนไลน์ก็มีเช่นกัน
อุปกรณ์สำหรับขายโดนัท
- โต๊ะหรือเคาท์เตอร์สำหรับวางขาย
- หม้อทอดโดนัทไฟฟ้า หรือ เตาแก๊ส พร้อมแก๊ส
- ตะแกรงและถาดพัก
- กระชอนตัก
- ที่คีบโดนัท
- เครื่องนวดผสมแป้ง
- อุปกรณ์อื่นๆ เช่น พิมพ์กด ตาชั่ง กล่อง ถุง ฯลฯ
วัตถุดิบ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม, ยีสต์ 15 กรัม, ผงฟู 1 ชช.,เกลือ ¼ ชช.
- นมผงสำหรับทำขนม 50 กรัม
- เนยสดชนิดเค็ม 100 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กลิ่นวานิลา, กลิ่นบัตเตอร์ 1 ชช.
- นมสด 250 ml”
- น้ำมันสำหรับทอด หรือไขมันถั่วเหลือง
วิธีทำ
- นำแป้งสาลีร่อน แล้วผสมน้ำตาลทราย ยิสต์ น้ำ นมสด เกลือป่น ไข่ไก่และเนยจืดแล้วนวดจนเข้ากัน จากนั้นพักแป้งไว้เป็นเวลา 30 นาทีจนกระทั่งแป้งหรือโดว์พองตัวขึ้นเป็น 2 เท่า
- นำโดว์ที่ขึ้นได้ที่มาทุบเพื่อไล่ลมออกแล้วพักไว้อีกครั้งจนกระทั่งแป้งขึ้นเป็น 2 เท่าหรือประมาณ 30 นาที
- เมื่อโดว์ขึ้นได้ที่แล้วให้นำมารีดแผ่เป็นแผ่นโดยให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นจึงใช้พิมพ์กดที่เตรียมไว้กดแล้วนำมาพักไว้ให้ขึ้นฟู
- เตรียมน้ำมันสำหรับทอดโดยใช้ไฟกลาง นำโดนัทที่เตรียมไว้ลงทอดโดยให้โดนัทฟูทั้งสองด้าน แล้วค่อยๆ ปล่อยให้ให้เหลืองทีละด้านจึงทำการตักขึ้นมาพักไว้เพื่อสะเด็ดน้ำมัน
- นำโดนัทที่ทอดได้มาตกแต่งเพิ่มเติมหรือนำไปโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งและรอให้เซตตัวจากนั้นจึงนำไปบรรจุลงกล่องหรือถาดเรียงเตรียมขาย
ท้อฟฟี่เค้ก
ท้อฟฟี่เค้กเมนูนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก และเป็นเมนูที่ขายดีตลอดกาลสำหรับสายหวานไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ชอบทานเป็นของว่างกับกาแฟ บางที่ใช้ในการจัดเบรคในงานสัมนาด้วยรสชาติที่หวานกำลังดีจึงสามารถทานได้ทั้งชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจขายท้อฟฟี่เค้กจะเลือกรับมาขาย หรือทำเองก็ได้กำไรไม่แพ้กันจะขายส่ง ขายออนไลน์ หรือเปิดหน้าร้านขายขนมและเบเกอรี่ก็ขายดี นอกจากนี้ยังสามารถนำไปฝากขายตามร้านกาแฟ ร้านขายขนมของฝากก็ได้อีกด้วย
สำหรับต้นทุนในการทำนั้นเน้นไปที่อุปกรณ์หลักในการทำเบเกอรี่ซึ่งได้แก่เตาอบ เครื่องผสม เครื่องตี เครื่องชั่ง และอุปกรณ์ตวงวัดต่างๆ โดยใช้เงินลงทุนอุปกรณ์เริ่มต้นที่ 8,000-10,000 บาท และส่วนของวัตถุดิบอีกประมาณ 1,000 บาท
วัตถุดิบสำหรับทำตัวเค้ก
- แป้งเค้กยี่ห้อใดก็ได้ 250 กรัม
- นมผงสำหรับทำขนม 2 ชต.
- ผงฟู 4 ชช.
- โกโก้ 70% 2 ชต.
- ผงกาแฟ 4 ชต.
- เนยจืด 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 340 กรัม
- ไข่ไก่ 8 ฟอง
- เกลือป่น ¼ ชช.
วัตถุดิบสำหรับซอสคาราเมลทำหน้าเค้ก
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 250 กรัม (อบสุก)
- เนยจืดละลาย 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 140 กรัม
- นมข้นจืด 120 กรัม
- ผงกาแฟ 2 ชช.
- แป้งเค้ก 4 ชต.
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
- นำแป้งเค้กที่เตรียมไว้ร่อนพร้อมกับผงฟู เติมผงกาแฟ ผงโกโก้ และนมผงสำหรับทำขนมที่เตรียมไว้เข้าด้วยกัน ร่อนรวมกัน 3 รอบเพื่อให้ผงโกโก้และผงกาแฟไม่จับตัวเป็นก้อน
- นำถาดสี่เหลี่ยม ขนาด 10×10 นิ้ว เตรียมไว้ 2 ถาด และปูรองถาดด้วยกระดาษรองอบ
- นำเนยที่เตรียมไว้ละลายด้วยไมโครเวฟจากนั้นวางพักไว้ให้อุ่น
- นำไข่ที่เตรียมไว้ใส่อ่างผสมแล้วตีให้เข้ากันด้วยความเร็วสูง 3-5 นาที เมื่อขึ้นฟูแล้วเติมเกลือ และ ทยอยเติมน้ำตาลลงไป ระหว่านั้นตีต่อไปเรื่อยๆ จนไข่ขึ้นฟูตั้งยอดเป็นสีขาว
- ค่อยๆ ทยอยเทแป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปผสมกับไข่ ค่อยๆใช้พายตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ จนส่วนผสมเข้ากันดีแล้วจึงทยอยเทเนยที่ละลายไว้ลงไปแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ
- นำส่วนผสมที่ได้เทลงถาดที่เตรียมไว้แล้ว ใช้ไม้พายเกลี่ยให้เรียบเสมอกัน จากนั้นนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง ใช้เวลาในการอบประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งสุก (ขึ้นอยู่กับเตาอบของแต่ละบ้าน)
- เมื่อเนื้อเค้กสุกได้ที่ให้นำออกจากเตาแล้วยกพิมพ์ขึ้นกระแทกเบาๆ เพื่อให้เนื้อเค้กเซตตัวแล้วพักไว้จนเย็นจึงนำออกมาจากถาด
วิธีทำหน้าเค้ก
- นำเนยสดที่เตรียมไว้ใส่น้ำตาลทราย นมข้นจืด เกลือลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อนแล้วคนจนกระทั่งน้ำตาลละลาย
- เติมผงกาแฟแล้วคนจนกาแฟละลายจากนั้นเติมแป้งเค้กที่เตรียมไว้แล้วคนจนแป้งสุกจะมีลักษณะเหนียวข้นแล้วจึงปิดไฟ
- นำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ใส่ลงไปคลุกเคล้าหให้เข้ากัน แล้วราดลงบนตัวเค้กที่เตรียมไว้
- จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 15 นาที หรือมากกว่านั้น สังเกตหน้าเค้กมีสีน้ำตาลแห้งสวยแล้วจึงนำออกมาพักไว้
- เมื่อเค้กเย็นตัวลงให้นำไปแช่เย็นก่อนนำมาตัดและบรรจุลงกล่อง
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเมนูขนมหวานสร้างรายได้เสริม ปี 2565 เท่านั้น แต่ยังมีอาหารและของทานเล่นอีกมากมายที่สามารถนำมาขายได้ ขอเพียงเพื่อนๆ ใส่ไอเดียที่แปลกใหม่ และสามารถรู้ความต้องการของกลุ่มลูกค้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติ ความสะดวกในการรับประทาน ความสะอาดรวมไปถึงความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าไปครองใจกลุ่มลูกค้าได้แน่นอนค่ะ hobinvest