วันหยุดทั้งทีจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยไม่เกิดรายได้คงน่าเสียดาย ในวันนี้เรามี 10 อาชีพเสริม เสาร์อาทิตย์ สร้างรายได้ ในยุคดิจิตัล สำหรับมนุษย์เงินเดือน ที่ทำได้ง่ายๆไม่ต้องลงทุนมากมาฝาก และสามารถทำที่บ้านได้ไม่รบกวนงานประจำมาฝากทุกท่านกันค่ะ
ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ คงไม่ดีแน่หากมีเพียงแค่อาชีพเดียว โดยเฉพาะช่วงที่โรคระบาดอย่างโควิด-19 กำลังระบาดและทำให้เศรษฐกิจสั่นคลอนไปทั่วโลก ทำให้ต้องทำงานที่บ้านเป็นหลัก แถมเงินเดือนก็ต้องถูกลดลงอีก แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆกลับเพิ่มขึ้น อาชีพเสริมจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่าอาชีพเสริมใดที่เหมาะกับคุณกันค่ะ
1. นายหน้าขาย – เช่าอสังหาฯ
ความต้องการในการหาที่อยู่อาศัยในแบบพร้อมอยู่นั้นเป็นที่ต้องการมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด หรืออพาร์ทเม้นต์ รวมไปถึงผุู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์อยู่ในมือ เช่น บ้าน หรือคอนโด ก็ต้องการหาผู้เช่า หรือผู้ซื้อเช่นกัน การเป็นนายหน้า หรือคนกลางในการติดต่อ เช่า ซื้อ หรือขายอสังหาริมทรัพย์นั้น ถือได้ว่าเป็นการทำงานที่แทบจะไม่ต้องลงทุนใดๆ เลย เพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลา และความอดทน รวมไปถึงความใส่ใจต่อผู้ที่ต้องการ เช่าหรือซื้อ และเจ้าของทรัพย์
ลักษณะของงาน
การเป็นนายหน้าซื้อ ขาย หรือเช่าอสังหาฯ นั้นเป็นลักษณะที่เป็นคนกลางระหว่างผู้ที่มีความต้องการหาซื้อ หรือเช่า กับเจ้าของซึ่งมีความต้องการขายหรือปล่อยเช่า โดยคนกลางจะเป็นผู้ที่จัดการหาสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องการให้ตรงกับความต้องการของทั้งสองฝ่าย โดยการเป็นนายหน้านั้นสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้
ขั้นตอนในการเป็นนายหน้า
- หาทรัพย์ที่ต้องการ และมีความถนัดในการเป็นคนกลาง เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน และทำการพูดคุยกับเจ้าของทรัพย์
- ทำประกาศหรือโปรโมททรัพย์ที่ได้คัดเลือก เช่น ทำเว็บไซต์ สร้างเพจเฟสบุ๊ค หรือโพสต์ลงในเว็บอสังหา
- มีความรู้ในเรื่องของสินเชื่อ และขั้นตอนการขอสินเชื่อ
- มีความรู้ในเรื่องของกฏหมาย และขั้นตอนในการทำธุรกรรมกับสำนักงานที่ดิน (ในกรณีมีการซื้อขาย)
- มีความรู้ในเรื่องของกฎหมายการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยสามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ https://www.treba.or.th/agents-ethics/
- มีความรู้ในทรัพย์ เช่น ราคากลาง ราคาประเมิน สภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียง
- มีความรู้ในการเซ็นต์เอกสาร ซื้อขาย หรือเช่าอสังหา
- มีเทคนิคในการติดต่อสื่อสารกับผู้ซื้อ หรือผู้เช่า
- สามารถแบ่งเวลาได้ไม่กระทบงานประจำ (กรณีทำเป็นอาชีพเสริม)
ต้นทุนในการเป็นนายหน้า
- เวลา
- การทำการตลาด เช่น ทำ marketing online, ทำป้ายประกาศ
- การเดินทางในกรณีพาลูกค้าไปดูทรัพย์
รายได้และค่าตอบแทน
- โดยทั่วไปค่าคอมมิชชั่น หรือค่านายหน้าจะอยู่ที่ 3% ของราคาซื้อขาย แต่หากเป็นนายหน้าในการปล่อยเช่าจะได้รับค่าตอบแทนที่ 1 เดือนแรกของค่าเช่าล่วงหน้า หรือบางรายจะอยู่ที่ครึ่งเดือนของค่าเช่าล่วงหน้า หรือตามที่ได้มีการตกลงกันไว้
- จากการจัดทำโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ โดยสามารถคิดค่าบริการล่วงหน้าแบบเหมาจ่ายเพื่อทำการลงโฆษณาในเว็บไซต์ หรือจัดทำป้าย
- จากค่าเดินทางในกรณีเป็นที่ดิน หรือโครงการที่อยู่ไกลและจำเป็นต้องเดินทางไปทำการประเมิน
- ค่าที่ปรึกษา ซึ่งบางรายอาจมีรายละเอียดที่ซับซ้อน เช่นในเรื่องของภาษีหรือกฎหมาย
- ค่าส่วนต่างจากสัญญาจ้าง กรณีที่สามารถปิดการขายได้ในราคาที่สูงกว่าที่เจ้าของตั้งไว้
อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถือได้ว่าเป็นคนกลางที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองฝ่าย และเป็นอาชีพเสริมที่สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ โดยดูที่ความถนัดของตนเองซึ่งหากเป็นมือใหม่อาจลองเป็นนายหน้าสำหรับการเช่าดูก่อน ซึ่งขั้นตอนต่างๆ จะไม่มีความซับซ้อนและสามารถทำเงินได้เร็ว
รายได้จากการเป็นนายหน้า
- กรณีซื้อขายอสังหาจะอยู่ที่ 3% ของราคาซื้อ – ขาย
- กรณีเช่า ได้รับคำนำหน้า 1 เดือนแรกของค่าเช่า หรือตามตกลง
ข้อมูลจาก www.condonewb.com
2. รับพิมพ์งาน
อาชีพรับพิมพ์งานเป็นอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะพิเศษมากนัก เพียงคุณเป็นคนที่มีความสามารถในการพิมพ์เอกสารได้รวดเร็ว และมีความแม่นยำก็สามารถรับงานพิมพ์ได้ง่ายๆ เพราะการรับพิมพ์งานนั้นสามารถทำที่บ้านได้ ไม่กระทบต่องานประจำของมนุษย์เงินเดือน เพียงแค่ใช้ช่วงเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คุณไม่อยากให้เสียเวลาเปล่ารับมาทำก็สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับคุณได้ง่ายๆ
ลักษณะของการทำงาน
ลักษณะงานของการรับพิมพ์งานนั้น โดยส่วนใหญ่จะพิมพ์เป็นไฟล์ Word หรือแปลงไฟล์เป็น PDF ตามที่ลูกค้ากำหนด ทั้งขนาดตัวอักษรและฟ้อนต์ที่ใช้ โดยงานลักษณะนี้จะมีต้นฉบับมาให้ผู้พิมพ์ พิมพ์ตามแบบต้นฉบับ ซึ่งในบางครั้งอาจมีการตัดทอนในบางส่วนออกตามที่ลูกค้าต้องการ งานที่ลูกค้านิยมนำมาจ้างพิมพ์นั้นโดยส่วนใหญ่มักจะเป็น รายงาน วิทยานิพนธ์ งานวิจัย หรือหนังสือเป็นต้น
อุปกรณ์รณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์
- เครื่องพิมพ์
- กระดาษ เอ 4 ขนาด 100 แกรม
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และวิธีการรับงาน
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นโดยส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นกลุ่ม
- กลุ่มสถาบันการศึกษา เช่น ตามวิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถาบันกวดวิชา ซึ่งจะมีนักศึกษาทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท ที่ต้องการพิมพ์รายงาน และหรือวิทยานิพนธ์ /กลุ่มอาจารย์ ที่ต้องการพิมพ์งานวิจัย ข้อสอบ หรือผลงาน ซึ่งคุณสามารถติดป้ายรับพิมพ์เอกสาร ไว้ตามสถาบันการศึกษา ตามบอร์ดของแต่ลคณะวิชา หรือลงประกาศในกลุ่มเพจเฟสบุ๊คของมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ตามเว็บบอร์ด
- กลุ่มคนทำงาน โดยส่วนใหญ่กลุ่มคนทำงานที่ต้องการใช้บริการพิมพ์เอกสารจะเป็นเอกสารเกี่ยวข้องกับผลการสรุปงานวิจัย หรือโปรเจคซึ่งคุณสามารถลงประกาศได้ตามเว็บบอร์ด หรือ Marketplace เช่น www.Pantipmarket.com , www.fastwork.co เป็นต้น
- ร้านถ่ายเอกสาร โดยส่วนใหญ่ร้านถ่ายเอกสารมักจะมีบริการรับพิมพ์งานควบคู่กันไปเพื่อความสะดวกของผู้ที่มาถ่ายเอกสารต่างๆ ทั้งหน้าสถาบันการศึกษา ในห้างสรรพสินค้า หรือตามแหล่งออฟฟิศสำนักงาน โดยคุณสามารถเข้าไปติดต่อขอรับงาน หรือวางนามบัตรไว้กับทางร้าน โดยอัตราค่าจ้างการรับงานพิมพ์จากร้านเหล่านี้จะมีการหักเปอร์เซนต์ หรือตามที่ตกลงกับทางร้าน
- โรงพิมพ์ โดยคุณสามารถเข้าไปติดต่อกับทางโรงพิมพ์โดยตรง หรือจากประกาศรับสมัครงานของทางโรงพิมพ์ตามเว็บไซต์สมัครงาน
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านี้ เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็ว รวมไปถึงมีทักษะในการพิมพ์ที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องของตัวอักษร และการเว้นวรรค
รายได้จากการรับพิมพ์งาน
อัตราค่าจ้างในการรับพิมพ์งานนั้นโดยส่วนใหญ่จะคิดค่าจ้างต่อ 1 หน้ากระดาษ A4 ที่พิมพ์ออกมา และใช้ขนาดอักษร 14 อักษร Cordia หรือ Angsana โดยดูจากความยากง่ายของการพิมพ์ เช่น
- เอกสารทั่วไปไม่มีอักขระพิเศษภาษาไทย หน้าละ 5-10 บาท รวมใส่รูปภาพ
- เอกสารทั่วไปไม่มีอักขระพิเศษภาษาอังกฤษ หน้าละ 7-14 บาท รวมใส่รูปภาพ
- เอกสารที่มีอักขระพิเศษ เช่น สูตรคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พร้อมรูปภาพ หน้าละ 14-20 บาท
โดยหากคุณรับงานพิมพ์เอกสารทั่่วไปไม่มีอักขระพิเศษจำนวน 100 หน้า คุณจะสามารถสร้างรายได้ตกวันละ 500 – 1000 บาท หากคุณพิมพ์ได้รวดเร็วและถูกต้อง
รายได้จากการรับพิมพ์งานวันละ 500 – 1,000 บาท
จะเห็นได้ว่าการรับงานมาพิมพ์นั้น สามารถทำที่บ้านได้โดยที่ไม่กระทบต่องานประจำซึ่งคุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุนใดๆ เพิ่มเติมหากคุณมีคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือแม้แต่แท็บเล็ต มือถือที่ปัจจุบันมีโปรแกรมการพิมพ์เอกสาร หรือไมโครซอฟออฟฟิศ หรือกูเกิ้ลด้อก (google doc.)ที่รองรับการทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น คุณก็สามารถรับงานพิมพ์มาเพิ่มเพื่อเสริมรายได้หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ก็ได้เช่นกัน
ข้อมูลจาก 108keajononline.blogspot.com
3. รับทำเว็บไซต์
อาชีพเสริมสำหรับคนยุคใหม่ในปี 2564 ที่สามารถทำเงินได้ต่อเนื่อง หากคุณมีความรู้ในเรื่องของการทำเว็บไซต์ หรือหากเป็นมือใหม่ก็สามารถศึกษาหาข้อมูล และฝึกฝนจนเก่ง จนกระทั่งเปิดรับงานด้วยตัวเองได้เช่นกัน สำหรับการทำเว็บไซต์ หรือบล๊อคในปัจจุบันนั้นไม่ได้ซับซ้อนมากเหมือนสมัยก่อน ปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยในการสร้างเว็บไซต์ให้คุณได้ศึกษาอยู่มากมาย แต่ที่นิยมใช้กันนั้นคือโปรแกรม WordPress https://wordpress.com/ ซึ่งสะดวกและง่าย ที่สำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ และยังทำที่บ้านได้ไม่กระทบกับงานประจำอีกด้วย
เริ่มต้นการทำเว็บไซต์อย่างไร
- ดาวน์โหลด และติดตั้งโปรแกรม WordPress ซึ่งเป็นเครื่องมือในการช่วยสร้างเว็บไซต์ที่สะดวก ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเอง
- เตรียมเนื้อหาในการทำเว็บไซต์ หากหน้าตาของเว็บมีความสวยงาม แต่หากไม่มีการเนื้อหาสำหรับเริ่มทำเว็บ คงไม่ต่างจากการสร้างบ้านที่ยังไม่ได้ตกแต่ง คนก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามาอ่านหรือดูอะไร
- จองโดเมนเนม (Domain name) และเช่าเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการทำเว็บไซต์นั้นคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าทั้งสองอย่างนี้ทำหน้าที่อย่างไร แต่สำหรับผู้ที่อยากจะเรียนรู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพเสริมนั้นจะต้องทำการรู้จักกับโดเมนเนม และเว็บโฮสติ้งสักนิด
- โดเมนเนม(Domain name) นั้นคือ ชื่อของเว็บไซต์ ซึ่งเปรียบเสมือนกับที่อยู่ที่สามารถระบุตัวตน หรือเว็บไซต์ของเราได้ โดยชื่อนั้นเราสามารถตั้งเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษได้ และควรตั้งชื่อให้สั้น กระชับ ความยาวไม่ควรเกิน 1-63 ตัวอักษร ไม่ควรยาวจนเกินไปเพื่อให้จำได้ง่าย เช่น google.com
- โฮสติ้ง (Hosting) คือพื้นที่สำหรับฝากไฟล์ของเว็บไซต์ เพราะเพียงแค่โดเมนเนม หรือชื่อของเว็บไซต์นั้นไม่เพียงพอ เราจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างผู้เข้าชม และเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาได้ออนไลน์อยู่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเมื่อมีการคีย์ชื่อของเว็บไซต์ลงไปบนแอดเดรสบาร์ (Address Bar) บนเว็บบราวเซอร์ก็จะทำการดึงข้อมูลจาก โฮสติ้งหรือบนพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ขึ้นมาเพื่อให้ได้เข้าชมกันนั่นเอง โดยตัวของเว็บโฮสติ้งนั้นเราสามารถทำการเช่าได้ในไทย หรือประเทศใกล้เคียงเพื่อสะดวกในการดึงข้อมูล ไม่แนะนำให้เช่าเว็บโฮสติ้งที่อยู่ไกลเกินไปเพราะอาจทำให้การดึงข้อมูลนั้นช้า
- เริ่มทำการเียนหร้าแรกของเว็บ โดยการนำเนื้อหาที่ได้ทำการเตรียมไว้ลงในหน้าแรกได้ได้เลย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำเว็บไซต์ได้แล้วค่ะ
ขั้นตอนการรับงานและอุปกรณ์ที่จำเป็น
- รับงานจากคนที่รู้จัก สำหรับมือใหม่ที่เริ่มทำเว็บไซต์นั้น แน่นอนว่ายังไม่มีโปรไฟล์ในการทำงาน ดังนั้นการรับงานทำเว็บไซต์จากคนใกล้ตัวก่อน จะเหมือนกับเป็นการฝึกปรึอฝีมือในการทำในช่วงเริ่มต้น
- รับงานจาก Connection ที่มีอยู่ และหา Connection ใหม่ๆ ด้วยการสร้าง Blog หรือเว็บไซต์ซึ่งเปรียบเสมือนกับเป็นการสร้างแบรนด์ให้ตัวเองเพื่อให้มีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาอยู่เสมอ
- สร้างผลงานโพสต์แชร์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ตามเพจเฟสบุีค และเว็บบอร์ด พร้อมแจ้งรายละเอียดและราคาเบื้องต้น รวมไปถึงให้ข้อมูลความรู้ด้วยการเข้าไปตอบคอมเม้นต์ตามเว็บบอร์ดพร้อมกับการแชร์บทความที่เราเขียนไว้ใน Blog หรือทำคลิปอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ เป็นการโปรโมทตัวเองอีกทางหนึ่ง
- ในการรับทำเว็บไซต์นั้นเพียงแค่คุณมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแลปท้อป และอินเตอร์เน็ต เพียงเท่านี้ก็สามารถรับงานมาทำที่บ้าน หรือที่ไหนๆ ก็ได้
รายได้จากการรับทำเว็บไซต์ หรือ Blog
วิธีการสร้างรายได้จากการรับทำเว็บไซต์นั้นเมื่อคุณใช้โปรแกรมและธีม (Theme) ต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว แนะนำ https://themeforest.net/?ref=vootou ก็สามารถเจรจารับงานได้ โดยการพูดคุยเพื่อรับงานนั้นควรมีความชัดเจน จุดไหนที่สามารถทำได้หรือไม่สามารถทำได้ และคิดค่าทำเฉพาะส่วนที่สามารถทำได้ สำหรับมือใหม่ที่เริ่มทำกับคนใกล้ตัวนั้นควรเริ่มที่ 8,000 – 15,000 บาท และเมื่อมีความชำนาญและรู้จักในวงกว้างมากขึ้นโดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 25,000 – 50,000 บาท เมื่อรับงานและตกลงราคาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอาจมีการวางมัดจำอย่างน้อย 30% หรือตามที่ตกลง รวมไปถึงบริการหลังการขายหลังจากที่ส่งงานให้ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยบางรายต้องการให้ช่วยดูแลระบบซึ่งคุณสามารถคิดค่าดูแลเป็นรายเดือน หรือรายปีตามที่ได้ทำการตกลงพูดคุยกับลูกค้า
รายได้จากการรับทำเว็บไซต์
- มือใหม่เพิ่งเริ่มต้น 8,000 – 15,000 บาท/งาน
- เป็นที่รู้จักและมีความชำนาญ 25,000 – 50,000 บาท/งาน
ในการรับทำเว็บไซต์นั้นคุณสามารถที่จะทำหลังเลิกงาน หรือนอกเวลางานเช่น วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนในยุคนี้ และสามารถทำที่บ้านได้โดยที่ไม่กระทบงานประจำ สำหรับมือใหม่ที่ต้องการรับทำเว็บไซต์นั้นควรที่จะต้องฝึกฝนการใช้งานทั้ง ธีมเวิร์ดเพรส ให้คล่องและเลือกธีมที่สวยงาม รวมไปถึงยังไม่ควรรับงานที่มีฟังก์ชั่นมากจนเกินไป
ข้อมูลจาก warrior.in.th
4. รับถอดเทปเสียงและไฟล์ดิจิตัล
อาชีพรับถอดเทปเสียงหลายคนอาจะไม่คุ้นเคย แต่เป็นอาชีพที่มีมานาน โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการประชุม สัมภาษณ์ งานวิจัย ถอดเสียงดิจิตัล หรือวิดีโอ มาเป็นตัวอักษรลงในไฟล์ word หรือ pdf.โปรแกรมอื่นๆ ที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ซึ่งการรับงานถอดเทปเสียงนั้นสามารถทำที่บ้านช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ หรือหลังเลิกงานก็ได้เช่นกัน โดยที่ไม่กระทบกับงานประจำ ซึ่งการทำงานประเภทนี้นั้นต้องอาศัยความแม่นยำในการพิมพ์ และมีความละเอียดรอบคอบ
อุปกรณ์ที่ใช้
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานรับงานถอดเทปเสียงนั้น หลักๆ เลยคือ คอมพิวเตอร์สำหรับพิมพ์ และถอดไฟล์เสียงให้ออกมาเป็นตัวหนังสือ พร้อมทั้งหูฟังเพื่อฟังเสียงได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในการรับส่งงาน เพราะในบางครั้งลูกค้าจะส่งเป็นไฟล์เสียง mp3 หรืออาจเป็นไฟล์ดิจิตัลหรือไฟล์ภาพมาให้ทางอีเมล์
ขั้นตอนการรับงาน
- ลงประกาศตามหน้าเพจเฟสบุ๊ค หรือแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น fastwork เว็บบอร์ด Pantipmarket
- สมัครเป็นผู้ถอดเทปเสียงจากเว็บไซต์ที่ประกาศรับสมัครงาน
- สร้างเพจ เว็บไซต์ หรือblog เพื่อทำการโปรโมตตัวเองให้ผู้ว่าจ้างหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายค้นหาได้ง่าย
รายละเอียดและรูปแบบในการรับถอดเทปเสียง
- ถอดแบบละเอียดทุกคำพูด และข้อความทั้งหมดที่ได้ยินไม่มีการตัดทอดใดๆ
- ถอดแบบตัดคำสร้อยทิ้ง เช่น คำที่พูดซ้ำ และทำการเปลี่ยนภาษาพูดให้เป็นภาษาเขียน
- ถอดแบบเรียบเรียงความสำคัญ เน้นเนื้อหาที่สำคัญ
- ถอดเทปเสียงภาษาไทย และทำการแปลให้เป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ
- ถอดเทปเสียงภาษาต่างประเทศ แล้วทำการแปลเป็นภาษาไทย
รายได้จากการรับถอดเทปเสียงและการคิดค่าบริการ
ในการรับงานถอดเทปเสียงนั้น โดยส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการเป็นชั่วโมง โดยดูความยาวของไฟล์เสียง หรือไฟล์ดิจิตัลที่ส่งมา ว่ามีความชัดเจนมากน้อยหรือยากง่ายแค่ไหน จากนั้นจึงทำการประเมินราคา ซึ่งหากคุณเป็นมือใหม่การคิดค่าบริการจะเริ่มต้นที่ชั่วโมงละประมาณ 400 บาท แต่หากคุณมีความชำนาญแล้ว สามารถรับได้ถึงชั่วโมงละ 3,000 – 5,000 บาท โดยดูจากความยากง่าย ชัดเจน และความต้องการเร่งด่วนมากแค่ไหน
รายได้และการคิดค่าบริการถอดเทปเสียง คิดค่าบริการตามความยากง่ายและเร่งด่วน
ตั้งแต่ 400 – 5,000 บาท /ชั่วโมงตามความยาวของไฟล์เสียง
ในการรับถอดเทปเสียงนั้นถือได้ว่าเป็นอาชีพเสริมที่สามารถเพิ่มรายได้ให้คุณ และยังไม่รบกวนงานประจำสำหรับมนุษย์เงินเดือน หรือคนที่ต้องการมีรายได้เสริมจากอาชีพที่ทำอยู่ เพียงแต่ต้องอาศัยประสบการณ์กันสักนิดก็จะสามารถสร้างรายได้ที่ถือว่าเป็นกอบเป็นกำได้เช่นเดียวกับอาชีพเสริมอื่นๆ
ข้อมูลจาก pallavisharma.biz
5. รับวาดภาพประกอบ
หากคุณเป็นคนที่มีจินตนาการ ชื่นชอบการวาดภาพ มีทักษะและความสามารถในการใช้โปรแกรมวาดภาพ หรือ Digital Painting ได้ คุณก็สามารถนำทักษะเหล่านี้ออกมาสร้างรายได้เสริมให้กับคุณในช่วงวันหยุด หรือหลังเลิกงานได้ อาชีพวาดภาพประกอบนั้นยังคงเป็นที่ต้องการในแวดวง ภาพยนต์ หนังสือสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมไปถึงการ์ตูนออนไลน์
อุปกรณ์สำคัญในการรับวาดภาพประกอบ
- คอมพิวเตอร์ ที่สามารถรองรับโปรแกรมวาดภาพ เช่น Photoshop, clip studio point, point tool sai
- สแกนเนอร์ ใช้สำหรับการสแกนภาพที่ร่างไว้เพื่อการตัดเส้นและลงสี จะมีหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ความถนัดส่วนบุคคล
- เม้าส์ปากกา ใช้สำหรับลงเส้นวาดภาพ
- แท็บเล็ตพร้อมกับปากกา สำหรับผู้ที่ชอบและถนัดวาดลงบนจอโดยตรง
- อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูล
คุณสมบัติการเป็นนักวาดภาพประกอบ
การจะเป็นนักวาดภาพประกอบไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น ในการวาดภาพแนวใดก็ตามต่างก็ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- มีจินตนาการ และมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจัยหลักในการวาดภาพ หากขาดสิ่งนี้ไปอาจทำให้ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ว่าจ้าง
- มีความรู้เกี่ยวกับงานศิลป์ และวางองค์ประกอบของภาพ
- มีใจรักและรู้สึกสนุกกับการวาดภาพ ซึ่งหากคุณรู้สึกไม่สนุกกับการวาดภาพอาจทำให้ไม่สามารถจินตนาการและรังสรรค์ผลงานได้ตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ
ขั้นตอนในการหางานและรับงาน
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการรับงานวาดภาพประกอบนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีคนรู้จักและกล้าที่จะว่าจ้างให้ทำงานในทันที ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำการโปรโมทตัวเองให้คนได้รู้จักและได้เห็นผลงานโดย
- สร้างเว็บ หรือบล็อกเพื่อสะสมผลงานของตัวเอง และง่ายต่อการค้นหา
- ส่งอีเมล์แนะนำตัวไปยังสำนักพิมพ์หรือเว็บไซต์ที่เปิดรับสมัคร พร้อมทั้งแนบลิ้งค์ผลงานของตนเอง
- เข้ากลุ่มเพจเฟสบุ๊คโชว์ผลงาน ให้ความรู้เกี่ยวกับการวาดภาพ เทคนิคต่างๆ และแนบลิ้งค์ผลงานของคุุณ รวมไปถึงการแจกผลงานให้เป็นที่รู้จัก
- สมัครเป็นสมาชิกเว็บต่างประเทศ ตามแนวของภาพที่วาด เช่น cgsociety.orgซึ่งเป็นเว็บที่รับฝากผลงานการวาดภาพแนวตะวันตก หรือหากวาดภาพแนวๆ ญี่ปุ่นสามารถสมัครได้ที่ pixiv.net หรือ community ต่างๆที่มีหลากหลายแนวเช่น deviantart.com ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการหางาน หากมีการตกลงรับงานทางเว็บจะทำการหักค่าคอมมิชชั่นตามข้อตกลงของทางเว็บไซต์
- ลงประกาศในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น fastwork ซึ่งเป็นตัวกลางในการหางาน เมื่อมีผู้ติดต่อเข้ามาและมีการส่งมอบงาน ทาง fastwork จะทำการหักค่าคอมมิชชั่นตามข้อตกลงและเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม และทำการโอนเงินให้กับทางคุณ ซึ่งหากผลงานของคุณถูกใจผู้ว่าจ้าง ทางผู้ว่าจ้างจะสามารถรีวิวเพื่อให้คนอื่นๆ ได้เห็นผลงานของคุณ รวมไปถึงมีความปลอดภัยในการรับจ้างเพราะทางแพลตฟอร์มจะทำการเรียกเก็บเงินก่อนที่จะมีการส่งมอบผลงานให้กับทางผู้ว่าจ้าง จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องกังวลในเรื่องของการว่าจ้างและรับงาน
ในส่วนของรายได้จากการรับวาดภาพประกอบสำหรับ freelance นั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับงาน แต่ละโปรเจค โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 500 – 2,000 บาทต่อรูปภาพ หรือหลักแสนสำหรับมืออาชีพเลยก็มีเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของการวาดภาพที่ผู้ว่าจ้างต้องการว่าต้องการรายละเอียดมากน้อยเท่าไร
รายได้จากการวาดภาพประกอบ
เริ่มตั้งแต่ 500 – 2,000 บาทต่อภาพ สำหรับมือใหม่
จนถึงหลักแสนหากเป็นมืออาชีพที่มีคนรู้จักในวงกว้าง
ข้อมูลจาก jobtopgun.com
6. รับทำบัญชี
สำหรับมนุษย์เงินเดือนในยุคนี้การมีอาชีพเสริมเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ โดยเฉพาะการได้นำความรู้ความสามารถที่ตรงกับงานที่ทำอยู่ หรือตรงกับสายวิชาที่เรียนมา การรับทำบัญชีถือได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ เพราะสามารถช่วยให้รู้ความเคลื่อนไหวของต้นทุน และกำไรของกิจการ ดังนั้นงานรับทำบัญชีนั้นจึงยังคงเป็นที่ต้องการต่อผู้ว่าจ้างในทุกธุรกิจ ซึ่งบางธุรกิจหากเป็นบริษัทที่ไม่ใหญ่มากนักมักนิยมจ้างนักบัญชีอิสระในการ ทำบัญชีและยื่นภาษี
ในการเป็นนักบัญชีอิสระนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องมีความรู้และเรียนมาทางด้านการบัญชี รวมไปถึงประสบการณ์ในการรับทำบัญชีที่มากพอพร้อมทั้ง
ขั้นตอนในการรับงานและเป็นนักบัญชีอิสระ
- สำหรับผู้ที่เริ่มรับงานบัญชีอิสระนั้น อาจเริ่มรับงานจากคนรู้จัก หรือจากเพื่อนก่อนเป็นอันดับแรก
- หาข้อมูลของบริษัทที่เปิดใหม่ และส่งอีเมล์แนะนำตัว หรือ
- เมื่อคุณมั่นใจว่าคุณมีความรู้ความสามารถในการทำบัญชีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรับทำ ตรวจสอบ หรือวางระบบ รวมไปถึงสามารถเป็นที่ปรึกษาด้านภาษีอากร ก็สามารถรับงานบัญชีทำนอกเวลางานเพื่อเป็นรายได้เสริมได้
- สร้าง blog เกี่ยวกับความรู้ทางบัญชี และแชร์ในเว็บบอร์ดต่างๆ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในคอมเม้นต์ด้วยลิ้งค์ของ blog คุณ
- ลงประกาศในแพลตฟอร์ม Marketplace เช่น fastwork ,Pantipmarket,
- ติดต่อและแนะนำตัวกับแพลตฟอร์มที่เกี่ยวกับระบบงานบัญชี เช่น https://www.workventure.com/ หรือ https://www.accrevo.com/
- ในการรับทำงานบัญชีอาจมีการขยายไปสู่การวางแผนระบบบัญชี ซึ่งอาจทำให้ปริมาณงานที่รับทำนั้นเพิ่มมากขึ้น หรือมีการว่าจ้างมากขึ้นเป็นวงกว้าง คุณก็สามารถหาผู้ช่วยหรือชักชวนเพื่อนในสายงานเดียวกันเข้ามาเป็นหุ้นส่วน
สำหรับรายได้ของนักบัญชีอิสระนั้นขึ้นอยู่ที่ได้ทำข้อตกลงกับทางบริษัทที่รับทำ ซึ่งบางบริษัทเสนอค่าจ้างเป็นรายปี บางบริษัทเสนอเป็นรายเดือน โดยเฉลี่ยเริ่มต้นที่เดือนละ 3,500 – 4,500 บาท หรือรับทำเป็นครั้งซึ่งอาจมีระยะเวลาในการทำเช่น 1 เดือน เพื่อทำการปิดงบการเงิน ยื่นภาษี ตรวจสอบบัญชี ตลอดจนยื่นประกันสังคม ฯลฯ ซึ่งสามารถคิดเป็นแบบแพคเกจเริ่มต้นที่ 5,000 – 8,000 บาท หรือตามที่ตกลง
รายได้จากการรับทำบัญชีอิสระ
รับเป็นรายเดือน สามารถสร้างรายได้เพิ่มเดือนละ 3,500 – 4,500 บาท/บริษัท
รับทำบัญชีต่อครั้งสามารถกำหนดแพคเกจเริ่มต้น 5,000 – 8,000 บาท/งาน
งานรับทำบัญชีนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดและรอบคอบ ซึ่งหากเมื่อคุณสามารถทำให้ผู้ว่าจ้างเกิดความประทับใจในผลงานของคุณ พร้อมทั้งมีการบอกต่อๆ กันจนเป็นที่รู้จักและไว้วางใจ จากรายได้เสริมอาจกลายเป็นรายได้หลักเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก th.jobsdb.com
7. รับตัดต่อวีดีโอ
ปัจจุบันคลิปวีดีโอเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาด ข้อมูล ข่าวสาร บันเทิง รวมไปถึงความรู้ และสื่อออนไลน์ต่างๆค่อนข้างมาก หรือแม้กระทั่งในชีวิตประจำวันที่คนนิยมดูคลิปวีดีโอมากกว่าการอ่าน การตัดต่อคลิปวีดีโอนั้นสามารถทำได้ไม่ยากเพียงแค่มีมือถือ และแอพพลิเคชั่นสำหรับตัดต่อคลิป แต่สำหรับคนที่ไม่มีความชำนาญนั้น การตัดต่อหรือทำคลิปอาจจะไม่มีความน่าสนใจให้ติดตามชมคลิปจนจบ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถในการตัดต่อคลิปวีดีโอ และมีความคิดที่สร้างสรรค์ตลอดจนมีเทคนิคและความชำนาญ ก็สามารถที่จะรับงานตัดต่อวีดีโอเป็นรายได้เสริมหลังเลิกงานได้ไม่ยาก และที่สำคัญคุณสามารถรับทำที่บ้าน และทำเฉพาะช่วงวันหยุดก็ยังได้เช่นกัน
อุปกรณ์ที่ใช้ในการรับตัดต่อวีดีโอ
- คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต
- กล้องสำหรับถ่ายคลิป (กรณีรับถ่ายงานด้วย)
- โปรแกรมสำหรับตัดต่อวีดีโอ ซึ่งโปรแกรมในการตัดต่อวีดีโอนั้น คุณสามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีๆ หรือหากต้องการใช้งานอย่างเต็มที่ก็สามารถซื้อตัวเวอร์ชั่นเต็มได้เช่นกัน
- โปรแกรมสำหรับใช้กับเครื่อง PC ได้แก่ Lightworks , iMovie, Adobe Premiere Pro เป็นต้น
- โปรแกรมสำหรับใช้กับมือถือ ได้แก่ Adobe Premiee Clip , VivaVideo, iMovie, KineMaster เป็นต้น
ขั้นตอนในการโปรโมตผลงาน และการรับงาน
- รับตัดต่อวีดีโอให้คนใกล้ชิด เช่น เพื่อน หรือคนรู้จัก หากคุณเป็นมือใหม่ที่ยังไม่มีคนรู้จักในวงกว้าง และไม่ได้ทำงานในสายงานตัดต่อวีดีโอโดยตรง การเริ่มรับทำจากคนใกล้ชิดจะเป็นการช่วยโปรโมทผลงานของคุณให้คนอื่นๆ ได้รู้จักและเห็นผลงานของคุณมากขึ้น เช่นรับทำวีดีโองานแต่ง หรืองานพรีเซนต์
- สร้างบล็อกนำผลงานที่คุณได้สร้างสรรค์ต่างๆ ลงโพสต์ในบล็อกของคุณ พร้อมกับลงรายละเอียดการติดต่อ และอัตราค่าบริการในการทำให้ละเอียด แล้วจึงนำไปโพสต์ตามกลุ่มเพจเฟสบุ๊คเกี่ยวกับงานกราฟฟิค
- ให้ความรู้กับผู้อื่นในเรื่องของเทคนิคการตัดต่อ และช่วยตอบคอมเม้นต์ตามเพจที่เป็นสมาชิกพร้อมกับแนบลิ้งค์ผลงานของคุณเพื่อเป็นการอธิบายคำตอบ
- ลงประกาศตามแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น thaifreelanceagency (thaifreelanceagency.com), Twitter, fastwork, pantipmarket
- สร้างเพจเฟสบุ๊ค ช่องยูทูป ให้ความรู้และแสดงผลงานให้คนได้ติดตาม พร้อมทั้งแนบลิ้งค์บล็อกของคุณให้คนอื่นๆได้เข้ามาอ่านรายละเอียด นอกจากจะได้ลูกค้าใหม่ๆ แล้วยังอาจได้ค่าโฆษณาจากยูทูป จากยอดวิวที่มีมากขึ้นอีกด้วย
รายได้จากการรับตัดต่อวีดีโอ และการคิดเรทราคางาน
หากเป็นมือใหม่การรับตัดต่อวีดีโอนั้นอาจจะเริ่มที่หลักพัน ซึ่งหากรับงานจากคนใกล้ตัวแล้วนั้นคงเกิดความรู้สึกเกรงใจและไม่รู้ว่าจะคิดเรทเริ่มต้นเท่าไหร่ดี หากเป็นเช่นนี้ก็อาจถามไปตรงๆ ว่าผู้ที่จะว่าจ้างมีงบอยู่เท่าไหร่ และตัวคุณเองมีขอบเขตในการรับทำระดับใด เช่น
- รับตัดต่อใส่เอฟเฟค ไม่เกิน 3 นาที 2,000 บาท
- รับตัดต่อ Vlog ไม่เกิน 5 – 20 นาที 3,000 – 6,000 บาท
- เพิ่มซับภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ คิดเพิ่ม 300 – 400 บาท
- ปรับแต่แก้ไขฟรีไม่เกิน 3 ครั้ง ครั้งต่อไปคิดเพิ่มครั้งละ 700 – 1,000 บาท (ตามที่ได้ทำการตกลงกับผู้ว่าจ้าง)
ทั้งนี้ในเรื่องของเรทการรับนี้สำหรับมือใหม่ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่หากเป็นมืออาชีพ และมีคนรู้จักในวงกว้าง และมีผลงานที่มีคนรู้จักนั้นสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับคุณได้ถึง 25,000 บาทต่องานเลยทีเดียว
รายได้ในการรับตัดต่อวีดีโอ
เริ่มตั้งแต่ 2,000 – 6,000 บาท สำหรับมือใหม่
เริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อ 1 ผลงาน สำหรับมืออาชีพ
ข้อมูลจาก fastwork.co , noria.co.th
8. รับทำพรีเซนต์เทชั่น
อีกหนึ่งอาชีพเสริมที่น่าสนใจ ไม่ต้องลงทุน และสามารถทำที่บ้านได้ นั่นก็คือการรับทำพรีเซนต์เทชั่น จากโปรแกรม Power Point ซึ่งงานต่างๆ เหล่านี้ต้องอาศัยความสามารถในการนำเสนอให้เข้าใจง่ายพร้อมทั้งมีความสวยงาม เข้ากับเนื้อหาที่จะนำเสนอ โดยการนำโปรแกรม Power Point ที่เราต่างรู้จักกันดีมาปรับใช้ให้มีความต่างจากการนำเสนอเพียงรูปภาพและข้อความแบบเดิมๆ เพราะในบางครั้งในการนำเสนอไม่ได้มีไว้เพียงเพื่ออธิบายในที่ประชุมทั่วๆ ไป แต่อาจเป็นการนำเสนอเพื่อพิจารณาโครงการ หรือหน่วยงานดังนั้นรูปแบบของการนำเสนอจึงจำเป็นที่จะต้องมีมากกว่าที่เคยเห็นโดยทั่วไป
ขั้นตอนในการทำพรีเซนต์เทชั่นด้วย Power Point
หากเป็นการนำเสนอที่มีความสำคัญในการตัดสินใจเพื่อทำโครงการ หรือเพื่อเพิ่มยอดขายนั้น การทำพรีเซนต์เทชั่นควรต้องมีการใช้เทคนิคในการออกแบบเพื่อให้พรีเซนต์เทชั่นออกมาแล้วสวยงาม ดูดี พร้อมทั้งดึงดูดให้ผู้ที่รับชมคล้อยตามดังนี้
- การเลือกใช้ Template ควรมีความแตกต่างจากของเดิมที่มีมาให้ในตัวของโปรแกรม ซึ่งTemplate เหล่านี้จะทำให้งานนำเสนอดูน่าเบื่อ หากคุณมีความสามารถในการใช้โปรแกรม Adobe photoshop ก็นำมันออกมาใช้เพื่อให้ผลงานของคุณสร้างมูลค่าในการทำพรีเซนต์เทชั่น หรือหากไม่ถนัดที่จะทำ ก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีๆ จากอินเตอร์เน็ตโดยเซริชหา Powerpoint Template ซึ่งมีให้เลือกใช้หลากหลาย free-powerpoint-templates-design.com
- เลือกใช้ตัวหนังสือให้น้อย แต่เข้าใจง่าย เคล็ดไม่ลับของการทำพรีเซนต์เทชั่นคือ ใน1 หน้าสไลด์นั้น ไม่ควรใช้ตัวหนังสือเกิน 6 บรรทัด เน้นเพียงแค่ข้อความสำคัญๆ เพราะจะทำให้อ่านได้ง่าย ในส่วนของรายละเอียดนั้นใช้การบรรยายจะทำให้ดูน่าสนใจมากกว่า
- Font ที่เลือกใช้ควรมีขนาดที่เหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ในส่วนที่เป็นหัวข้อหลักควรทำให้เห็นถึงความแตกต่างด้วยการทำเป็นตัวหนาและมีขนาดที่ต่างจากหัวข้อรอง รวมไปถึงการใช้สีในการเน้นข้อความที่ชัดเจนทำให้ผู้ที่กำลังรับชมเข้าใจได้ง่าย รวมไปถึงการใช้ Word Art ในการเพิ่มลูกเล่นให้หน้าสไลด์ดูเด่นขึ้นมา
- ทำให้หน้าสไลด์ดูน่าสนใจไม่รบกวนสายตาคนดู ในการทำสไลด์นั้นหลายๆ คนติดการใช้บรรดาตัวหนังสือวิ่ง หรือเลื่อนไปมา หรือที่เราเรียกกันว่า Transitions ซึ่งเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นของโปรแกรม แต่หากใช้มากเกินไปหรือใช้ในทุกหน้าสไลด์ อาจทำให้กลายเป็นการรบกวนสายตาคนดูมากเกินไปจนทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และไม่สนใจงานที่นำเสนอนั้นเลยก็อาจเป็นได้ ควรเลือกใช้ให้น้อยที่สุด หรือไม่ใช้เลยจะทำให้ดูน่าสนใจได้มากกว่า ซึ่งอาจเน้นที่การใช้เมาส์วาดเส้นเพื่อเน้นข้อความสำคัญๆ ในขณะที่สไลด์กำลังแสดงอยู่แทน
- เลือกใช้รูปที่สื่อความหมายได้มากที่สุดเพียงรูปภาพเดียวหรือไม่ควรเกิน 4 รูปใน 1 หน้าสไลด์
หาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้จากที่ไหน
แน่นอนว่าการเริ่มรับงานทำพรีเซนต์เทชั่นในช่วงแรกคงไม่ง่ายที่จะมีคนรู้จัก และกล้าที่จะว่าจ้างให้คุณทำให้ โดยเฉพาะโปรเจคที่มีความสำคัญในการตัดสินใจเพื่อธุรกิจด้วยแล้วคงต้องดูผลงานกันค่อนข้างละเอียด ดังนั้นการใช้สื่อออนไลน์ที่มีอยู่ในปัจจุุบันและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายจึงเป็นการโปรโมทที่ดีที่สุดโดย
- การสร้างบล็อก หรือเว็บไซต์ ซึ่งในปัจจุบันนี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการใช้บล็อกของกูเกิ้ลซึ่งมีให้ใช้ได้ฟรีๆ
- สร้างเพจเฟสบุุ๊คเพื่อให้คนได้รู้จักและติดตามผลงานของคุณ
- เป็นสมาชิกกลุ่มในเฟสบุ๊คที่เกี่ยวข้องกับการทำพรีเซนต์เทชั่น เพื่อเข้าไปให้ความรู้หรือตอบคำถามในคอมเม้นต์พร้อมทั้งแนบลิ้งค์บล๊อคผลงาน หรือเพจของคุณในการตอบข้อสงสัย
- โพสต์ตัวอย่างผลงานตามเว็บบอร์ดเช่น Pantipmarket
- ลงโพสต์ในแพลตฟอร์ม marketplace เช่น fastwore, Thaifreelanceangency เป็นต้น
- รับงานจากเพื่อนหรือคนใกล้ชิด
- วางนามบัตรหรือใบปลิว พร้อมลงรายละเอียดในการรับทำที่ชัดเจน ตามร้านถ่ายเอกสารใกล้มหาวิทยาลัย
ขั้นตอน และวิธีการรับงาน
การทำพรีเซนต์เทชั่นนั้น คือการนำเสนอ และสรุปรายละเอียดของโปรเจค หรือโครงการให้ผู้อื่นที่ได้รับชมเกิดความเข้าใจได้ง่ายถึแม้ว่าจะไม่มีคำพูดในการอธิบาย และเมื่อมีการอธิบายประกอบก็จะยิ่งทำให้เข้าใจได้มากขึ้น ดังนั้น หากคุณรับงานทำพรีเซนต์เทชั่น จึงควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบรายละเอียดที่ชัดเจนในการนำมาทำงานนำเสนอโดย
- สอบถามเรื่องที่จะให้ทำพรีเซนต์เทชั่น
- หัวข้อที่ลูกค้าต้องการในการนำเสนอ
- จำนวนหน้าที่ลูกค้าต้องการ
- โทนสี หากลูกค้ามีโทนสีที่ต้องการใช้เช่น สีประจำบริษัท หรือสีที่ถูกโฉลก
- เอฟเฟ็คที่ต้องการเพิ่มเติม เช่นเสียงประกอบ
- รูปภาพทีต้องการ เช่นต้องการให้ตัดต่อ ปรับเปลี่ยน หรือแต่งภาพเพิ่มเติม
- กำหนดเวลาที่ต้องการรับงาน
เรทในการรับทำและออกแบบพรีเซนต์เทชั่น
ค่าตอบแทนในการรับทำพรีเซนต์เทชั่นนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการพิเศษเพิ่มเติมของลูกค้า และความสามารถในการออกแบบของคุณเป็นหลัก ซึ่งหากคุณสามารถใส่ลูกเล่นที่ทำให้การนำเสนอเหมือนดูคลิปวีดีโอ รวมไปถึงการออกแบบกราฟฟิคต่างๆ ได้หลากหลายก็สามารถที่จะกำหนดราคาให้สูงขึ้นได้ เรทราคาโดยทั่วไปใช้เวลาในการทำ 3-7 วัน โดยเรทราคา 1-10 หน้าเริ่มต้นที่ 500 – 1,000 บาท แต่หากมีความยากและมีลูกเล่น รวมไปถึงหน้าสไลด์มีจำนวนตั้งแต่ 11 – 50 หน้า เรทราคาจะอยู่ที่ 1,000 – 4,500 บาท
รายได้จากการรับทำพรีเซนต์เทชั่น
เริ่มต้นที่ 500 – 4,500 บาท/งาน โดยขึ้นอยู่กับรายละเอียดของงาน
การรับทำพรีเซนต์เทชั่นนั้นไม่จำเป็นต้องลงทุนอุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติมหากคุณมีคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต คุณก็สามารถรับทำพรีเซนต์เทชั่นเป็นอาชีพเสริมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และยังสามารถทำที่บ้านได้โดยไม่กระทบต่องานประจำของมนุษย์เงินเดือนเช่นคุณอีกด้วย
ข้อมูลจาก xn--82cydr1amje3g9ac0rmf.com/
9. Call center อิสระ
ปัจจุบันคนทำงานแบบ Work from home กันมากขึ้นทำให้มีอาชีพอิสระใหม่ๆ มากขึ้นตามมาด้วย สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการมีรายได้เพิ่มในช่วงวันหยุด และสามารถทำอาชีพเสริมโดยทำที่บ้านได้โดยไม่กระทบต่องานประจำ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม เพียงแค่มีอุปกรณ์พื้นฐาน นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ ก็สามารถทำได้ งาน Call center อิสระจึงเป็นอีกงานเสริมที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ให้กับคนที่ต้องการเพิ่มรายได้อีกหนึ่งช่องทาง
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการรับงาน call center อิสระ
- โทรศัพท์มือถือ
- ชุดหูฟัง
- คอมพิวเตอร์
อาชีพเสริม call center อิสระ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสายงานบริการที่ต้องตอบคำถาม และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้า หรือผู้ที่โทรเข้ามาติดต่อสอบถาม ถือได้ว่าเป็นด่านหน้าของบริษัทผู้ว่าจ้าง หรือธุรกิจในการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในยุคที่โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาท และเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจจึงทำให้การดำเนินธุรกิจสามารถดำเนินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดทั้งสัปดาห์ จากการค้นหา สืบค้นข้อมูลของผู้บริโภคนั่นเอง
ลักษณะการทำงานของ call center
- รับสายโทรเข้าแทนเจ้าของธุรกิจ
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า และบริการตามที่ได้รับมอบหมาย
- รับเรื่องร้องเรียน รวมไปถึงช่วยประสานงานในการแก้ปัญหาต่างๆ
- สรุปผลตอบรับ และรายงานปัญหาต่างๆที่ได้รับข้อมูลจากลูกค้าให้ผู้ว่าจ้าง
รูปแบบในการรับงาน call center อิสระนั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ที่รับงาน รวมไปถึงรายละเอียดที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้ทำ โดยสามารถกำหนดวันทำงานได้โดยอิสระด้วยตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจต่างๆ นิยมใช้บริการ call center อิสระมากกว่าที่จะต้องจ้างเป็นประจำรายเดือน โดยว่าจ้างเป็นจำนวนวัน หรือสัปดาห์แทน โดยจ่ายค่าบริการเป็นแบบแพคเกจ ตามที่ผู้รับงานเป็นผู้กำหนดราคาขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อ 1 วัน หรืออาจกำหนดเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือนเพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้เลือกใช้บริการ โดยค่าบริการจะเริ่มต้นที่สัปดาห์ละ 3,000 – 5,000 บาท หรือเดือนละ 10,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายละเอียด และขอบเขตของงานที่ได้ทำการตกลงกับผู้ว่าจ้าง
รายได้ของ Call center อิสระ
เริ่มต้นที่ 500 บาทต่อวัน หรือ 10,000 – 30,000 บาทต่อเดือน
ขั้นตอนและช่องทางในการรับงาน Call center
- ลงประกาศในแพลตฟอร์ม marketplace ต่างๆ เช่น fastwork.co, indeed.com
- เว็บไซต์สมัครงาน
- เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพจเฟสบุุ๊คงานฟรีแลนซ์ และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
อาชีพเสริมในสายงาน call center ถือได้ว่าเป็นสายงานที่เกี่ยวกับการบริการ ผู้ที่รับงานอิสระทางด้านนี้ต้องหมันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า และบริการ รวมไปถึงมีความเข้าใจในตัวของผู้บริโภคหรือผู้ที่ทำการโทรเข้ามาเพื่อสอบถามข้อมูลรายละเอียด หรือแจ้งปัญหาต่างๆ และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี เพื่อชื่อเสียงของผู้ว่าจ้าง ซึ่งหากคุณสามารถทำได้เป็นอย่างดี อาชีพเสริมนี้สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้แน่นอน
ข้อมูลจาก today.line.me
10. ทำอาหารเดลิเวอรี่ ขายส่งในหมู่บ้าน
หากคุณไม่ถนัดงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากนัก แต่มักจะสนุกกับการทำอาหารและมีความสุขทุกครั้งที่มีคนได้ชิมฝีมือคุณ ลองเปิดรับออร์เดอร์ขายอาหารเป็นอาชีพเสริมช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ก็สามารถทำเงินให้คุณได้ไม่น้อย โดยเฉพาะยุคปัจจุบัน ตามหมู่บ้านหรือคอนโดต่างๆก็มีไลน์กลุ่มของหมู่บ้านหรือของชุมชนไว้สำหรับแจ้งประชาสัมพันธ์ หรือค้าขายกันภายในหมู่บ้านแทบทุกหมู่บ้านเลยทีเดียว
อุปกรณ์ในการทำ
- อุปกรณ์ครัวที่คุณมีอยู่แล้ว เช่น หม้อ กระทะ เตาแก๊ส
- วัตถุดิบในการปรุงอาหาร
- โทรศัพท์มือถือ ไว้สำหรับรับออเดอร์จากลูกค้า
ขั้นตอนการหาลูกค้า
- ทำป้ายประกาศพร้อมรายละเอียดราคาอาหาร และเมนูประจำวัน ติดที่ป้ายของส่วนกลางในหมู่บ้านหรือคอนโด เช่นตามลิฟท์ และป้ายประกาศ
- จัดทำใบปลิวพร้อมเมนูประจำวันหย่อนไว้ในตู้จดหมาย
- เป็นสมาชิกกลุ่มไลน์ และเฟสบุ๊คของหมู่บ้านที่อนุญาตให้ลงประกาศขาย
- โพสต์ลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว หรือสร้างเพจ
แหล่งสำหรับซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารขาย
- ตลาดสดใกล้บ้าน
- แมคโคร
- ไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่น บิ๊กซี โลตัส
- สั่งวัตถุดิบผ่านทางออนไลน์ เพื่อประหยัดเวลา
สิ่งที่ควรต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการทำอาหารส่งแบบเดลิเวอรี่
- การคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุง
- เมนูอาหาร และประเภทของอาหาร
- กล่องบรรจุอาหารซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลอดภัย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่สั่งเกิดความประทับใจได้นอกเหนือจากรสชาติอาหารที่ถูกปาก
- ขั้นตอนการส่งอาหาร
- การโปรโมทร้านค้า ถึงแม้จะเป็นร้านที่ทำภายในที่พักอาศัย เฉพาะช่วงวันหยุดก็ควรมีการอัพเดทเมนูอาหารให้เพื่อนบ้านได้รับรู้ล่วงหน้า เพื่อสะดวกในการรับออเดอร์และเตรียมวัตถุดิบ
รายได้จากการทำอาหารเดลิเวอรี่
การทำอาหารขายแบบเดลิเวอรี่ในหมู่บ้านหรือที่พักอาศัยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น สามารถทำได้ที่บ้านโดยไม่ต้องเช่าหน้าร้าน และไม่ต้องลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์พื้นฐานเพิ่มเติมก็สามารถสร้างรายได้ให้มนุษย์เงินเดือนได้ หากคุณเป็นคนที่ทำอาหารอร่อย และมีความใส่ใจกับทุกออเดอร์ที่มีคนสั่งเข้ามา แน่นอนว่าจะต้องมีลูกค้าประจำขอผูกปิ่นโตกันเป็นประจำแน่นอน ซึ่งคุณสามารถตั้งราคาให้เหมาะสมกับเมนูอาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารชุด หรืออาหารจานเดียวก็สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้ถึง 1,000 – 3,000 บาทเลยทีเดียว
รายได้จากการขายอาหารเดลิเวอรี่ในหมู่บ้านช่วงวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์
สามารถสร้างรายได้ถึงวันละ 1,000 – 3,000 บาท
วิธีการคำนวนต้นทุนในการขายอาหาร
ในการคำนวนต้นทุนอย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงไว้ก่อนคือต้องตั้งเป็น 100% เช่น
- ต้นทุนอาหาร ควรตั้งไว้ที่ 35% โดยใช้สูตรของอาหารจานนั้นๆ ในการคำนวน ใช้ส่วนผสมหรือวัตถุดิบเป็นต้นทุนต่อ 1 จาน และต้นทุนไม่ควรเกิน 35% ของราคาที่ขาย ตัวอย่างเช่น
ข้าวกะเพราไก่/หมู
- ข้าว 100 กรัม 5 บาท
- หมู/ไก่ 30 กรัม 7.50 บาท
- เครื่องปรุงรส 3 บาท
- ใบกะเพรา 2 บาท
รวมแล้วต้นทุนอาหารจานนี้อยู่ที่ 17.50 บาท ซึ่งหากคุณขายได้ 100 ออเดอร์หรือ 5,000 บาทต่อวัน ต้นทุนจะอยู่ที่ 1,750 บาท
- ต้นทุนค่าแรงงาน 15% โดยต้นทุนนี้จะเป็นค่าแรงของตัวเราเอง หรือของลูกจ้าง
- ค่าน้ำ ค่าไฟ 5%
- ค่าเช่า (ถ้ามี) 15%
- เบ็ดเตล็ด 10% เช่นค่าส่ง ค่าอุปกรณ์เช่น กล่องบรรจุอาหาร ถุง เป็นต้น
จากสูตรนี้เป็นการคำนวนต้นทุนแบบ 100% ซึ่งสามารถสรุปต้นทุนได้ดังนี้
เมนูผัดกะเพราขายจานละ 50 บาท
50 x 100 = 5,000 บาทต่อวัน
รวมต้นทุน 4,000 บาท กำไรจะอยู่ที่ 1,000 บาท โดยเราสามารถที่จะปรับลดในส่วนที่ไม่ใช้ได้ หรือใช้ไม่ถึงตามที่ได้ตั้งไว้ ในส่วนนั้นก็จะสามารถเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นอีกด้วยเ่ช่นกัน
ข้อมูลจาก cheechongruay.smartsme.co.th
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ10 อาชีพเสริมเสาร์-อาทิตย์ สร้างรายได้ในยุคดิจิตัลสำหรับมนุษย์เงินเดือน ที่ได้นำมาฝากทุกท่านหวังว่าคงจะมีอาชีพเสริม ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับ มนุษย์เงินเดือน ในยุคดิจิตัลที่ต้องก้าวตามโลกออนไลน์ให้ทัน และยังสามารถทำที่บ้านได้โดยไม่กระทบต่องานประจำ
ตารางสรุปรายได้ของ 10 อาชีพเสริมเสาร์ – อาทิตย์ สร้างรายได้ในยุุคดิจิตัล สำหรับมนุษย์เงินเดือน